คิดแบบสอบสวนสืบสวน หมายถึง การคิดแบบเป็นกระบวนการแบ่งเป็นการคิดตามลำดับขั้นตอนดังนี้คือ 2. 1 การคิดพิจารณาเห็นปัญหาที่เกิดขึ้น หรือการคิดวิเคราะห์ถึงสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น 2. 2 การคิดหาเหตุของปัญหา หรือ การนำเสนอเหตุแห่งปัญหาหรือการตั้งสมมติฐาน 2. 3 การเก็บรวบรวมข้อมูล หรือการรวบรวมความคิด 2. 4 การทดลอง/การปฏิบัติ หรือการทดสอบสมมติฐาน 2. 5 การสรุปผล

วิธีคิดแบบสืบสาวเหตุปัจจัย | โยนิโสมนสิการ

ต้องนำก๋วยเตี๋ยวหมู มาพิจารณา ว่ามีองค์ประกอบอะไรบ้าง ที่มาประชุมกันจนเกิดเป็น ก๋วยเตี๋ยวหมูหนึ่งชาม เป็นต้น วิธีคิดแบบสืบสาวเหตุปัจจัย แบ่งออกเป็น 2 แบบคือ 1.

ลำดับนั้น เราได้มีความคิดว่า เมื่ออะไรมีอยู่หนอ ตัณหาจึงมี ตัณหามีเพราะอะไรเป็นปัจจัย? ลำดับนั้น เพราะเราโยนิโสมนสิการ จึงรู้ได้ด้วยปัญญาว่า เมื่อเวทนามีอยู่ ตัณหาจึงมี ตัณหามีเพราะเวทนาเป็นปัจจัยฯลฯ

นิ. 16/236/116) ข. คิดแบบสอบสวน หรือ ตั้งคำถาม เช่น ที่พระพุทธเจ้าทรงพิจารณาว่า "เรานั้นได้มีความคิดว่า เมื่ออะไรมีอยู่หนอ อุปาทานจึงมี อุปาทานมี เพราะอะไรเป็นปัจจัย? ลำดับนั้น เพราะโยนิโสมนสิการ จึงรู้ได้ด้วยปัญญาว่า เมื่อตัณหามีอยู่ อุปาทานจึงมี อุปาทานมี เพราะตัณหาเป็นปัจจัย "ลำดับนั้น เราได้มีความคิดว่า เมื่ออะไรมีอยู่หนอ ตัณหาจึงมี ตัณหามี เพราะอะไรเป็นปัจจัย? ลำดับนั้น เพราะโยนิโสมนสิการ จึงรู้ได้ด้วยปัญญาว่า เมื่อเวทนามีอยู่ ตัณหาจึงมี ตัณหามี เพราะเวทนาเป็นปัจจัย ฯลฯ" เนื่องจากถือได้ว่า คำอธิบายในเรื่อง ปฏิจจสมุปบาท ที่ผ่านมาแล้วในบทหนึ่ง ก็เหมือนเป็นคำอธิบายวิธีคิดแบบสืบสาวเหตุปัจจัยนี้ด้วยแล้ว คำอธิบายวิธีคิดแบบนี้ จึงยุติเพียงเท่านี้ ตัวอย่างวิธีสืบสาวหาเหตุปัจจัย (ผู้ว่า สืบสาวหาที่มาของเงินเดือน) นี่ก็แนวโยนิโสมนสิการ

บัว แก้ว เก ษ ร

ดอกบัว วิธีคิดแบบสืบสาวเหตุปัจจัย วิธีโยนิโสมนสิการเท่าที่พบในบาลี พอประมวลเป็นแบบใหญ่ ๆ ได้ดังนี้ 1. วิธีคิดแบบสืบสาวเหตุปัจจัย คือพิจารณาปรากฏการณ์ที่เป็นผล ให้รู้จักสภาวะที่เป็นจริงหรือพิจารณาปัญหา หาหนทาง แก้ไข ด้วยการค้นหาสาเหตุและปัจจัยต่าง ๆ ที่สัมพันธ์ส่งผลสืบทอดกันมา อาจเรียกว่า วิธีคิดแบบอิทัปปัจจยตา หรือคิดตามหลักปฏิจจสมุปบาท จัดเป็นวิธีโยนิโสมนสิการแบบพื้นฐาน ดังจะเห็นว่าบางครั้งท่านใช้บรรยายการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า วิธีนี้กล่าวตามบาลีพบแนวปฏิบัติพื้นฐาน ดังจะเห็นบางครั้งท่านใช้บรรยายการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า วิธีนี้กล่าวตามบาลีพบแนวปฏิบัติดังนี้ ก. คิดแบบปัจจัยสัมพันธ์ โดยอริยสาวกโยนิโสมนสิการ การที่สิ่งทั้งหลายอาศัยกันจึงเกิดขึ้นพรั่งพร้อมว่า "เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี เพราะสิ่งนี้เกิดขึ้น สิ่งนี้จึงเกิดขึ้น เมื่อสิ่งนี้ไม่มี สิ่งนี้จึงไม่มี เพราะสิ่งนี้นี้ดับ สิ่งนี้จึงดับ" ข. คิดแบบสอบสวน หรือตั้งคำถาม เช่น ที่พระพุทธเจ้าทรงพิจารณาว่า "เรานั้นได้มีความคิดว่าเมื่ออะไรมีอยู่หนอ อุปาทานจึงมี อุปาทานมีเพราะอะไรเป็นปัจจัย? ลำดับนั้นเพราะเราโยนิโสมนสิการจึงรู้ได้ด้วยปัญญาว่า เมื่อตัณหามีอยู่ อุปาทานจึงมี อุปาทานมีเพราะตัณหาเป็นปัจจัย.

วิธีคิดแบบสืบสาวเหตุปัจจัย ๒. วิธีคิดแบบแยกแยะส่วนประกอบ ๓. วิธีคิดแบบสามัญลักษณ์ ๔. วิธีคิดแบบอริสัจ/คิดแบบแก้ปัญหา ๕. วิธีคิดแบบอรรถธรรมสัมพันธ์ ๖. วิธีคิดแบบเห็นคุณโทษและทางออก ๗. วิธีคิดแบบรู้คุณค่าแท้ - คุณค่าเทียม ๘. วิธีคิดแบบเร้ากุศล ๙. วิธีคิดแบบอยู่กับปัจจุบัน ๑๐. วิธีคิดแบบวิภัชชวาท ๑.

  1. Raging Phoenix (2008) จีจ้า ดื้อสวยดุ (เต็มเรื่อง) | Nung2HD
  2. โน๊ ต บุ๊ค dell ราคา ไม่ เกิน 1000 et 1
  3. คิดสาวเหตุปัจจัย
  4. โหลด ของ the sims 3 pack
  5. หนัง ออ น ไล น๋
  1. หวย 16 11 62 mthai 3
  2. แท่น ชาร์จ ไร้ สาย mophie
  3. มา ย ครา ฟ 2d
พระ-สมเดจ-พมพ-ทรง-เจดย-วด-ระฆง-ชะลด-ใหญ
Sat, 14 Aug 2021 03:02:24 +0000